โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, UN Global Compact Network Thailand, และ Fair Finance Thailand จัดการอบรมเชิงนโยบายสำหรับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินโดยเฉพาะ ณ โรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 กรุงเทพมหานคร
การอบรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เสริมสร้างบทบาทของหน่วยงานภาครัฐในฐานะผู้กำกับดูแลระบบการเงิน ให้สามารถ ระบุ บรรเทา ป้องกัน และตอบสนองต่อความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเด็นที่ซับซ้อนอย่าง การเป็นทาสสมัยใหม่และการค้ามนุษย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการเงินและการลงทุนของสถาบันการเงิน
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “สัปดาห์ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” ครั้งที่ 9 และมีเป้าหมายในการ ขับเคลื่อนบทบาทของภาคการเงิน ในการสนับสนุน วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน และ การเคารพสิทธิมนุษยชน ของประเทศไทยต่อไป
การอบรมได้รับเกียรติจาก
- คุณนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน
- และกล่าวต้อนรับโดย ดร. ขวัญฤทัย ศิริพัฒนโกศล รองเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย
เนื้อหาเริ่มต้นด้วยการนำเสนอที่มาของโครงการ Finance Against Slavery and Trafficking (FAST) โดย คุณธาริณี สุรวรนนท์ ผู้จัดการโครงการด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน UNDP ประเทศไทยและการบรรยายในหัวข้อ “ความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเป็นทาสสมัยใหม่และการค้ามนุษย์ในภาคการเงิน” โดย คุณจิล ฮินเดอร์ ผู้ประสานงานโครงการด้านการเงินและสิทธิมนุษยชน UNDP Global
บทเรียนที่ได้จากการอบรมครั้งนี้
- ผู้เข้าร่วมได้ ตระหนักว่าความเสี่ยงจากการเป็นทาสสมัยใหม่ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงต้นน้ำหรือปลายน้ำในห่วงโซ่อุปทาน แต่เชื่อมโยงถึง ระบบการจัดสรรเงินทุน การให้บริการทางการเงิน และการลงทุน
- ภาครัฐสามารถมีบทบาทสำคัญในการ กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง และสร้างแรงจูงใจ ที่นำไปสู่พฤติกรรมที่รับผิดชอบ
- มีข้อเสนอให้พิจารณา ปรับปรุงหรือจัดทำกฎหมายใหม่ ที่สามารถใช้ในการ กำกับดูแลความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในระบบการเงิน พร้อมทั้งส่งเสริม กลไกร้องเรียนที่ปลอดภัย
การอบรมครั้งนี้นับเป็นการวางรากฐานเชิงนโยบายที่สำคัญ สำหรับหน่วยงานภาครัฐของไทย ในการ ยกระดับกรอบการกำกับดูแลทางการเงิน ให้สามารถ ป้องกันและจัดการปัญหาทาสสมัยใหม่ ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน พร้อม ขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงสถาบันในระดับชาติและภูมิภาค