Trade Show แบบผู้ประกอบการยุคใหม่ ออกงานแสดงสินค้าอย่างไรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับผู้ประกอบการทุกคน การออกงานแสดงสินค้า (Trade Show) นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการประชาสัมพันธ์รวมถึงสร้างยอดขายให้ผลิตภัณฑ์ เพราะเป็นพื้นที่ๆ ผู้บริโภคตลอดจนคู่ค้าต่างตั้งใจเข้ามาเพื่อจับจ่ายหรือแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจกันอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานแสดงสินค้าส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาจัดงานที่ไม่นานมากเต็มที่ไม่เกิน7 วัน แต่ไม่ว่าจะเป็นการจัดบูธแสดงสินค้า การตกแต่งสถานที่จัดงาน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนสร้างขยะและจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลก

ที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา จึงเกิดการรวมกลุ่มกันของสมาชิกจากทั้งห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมขึ้น ตั้งแต่คณะผู้จัดงานแสดงสินค้า ผู้ดูแลสถานที่ ผู้รับเหมาบริการติดตั้ง ไปจนถึงพันธมิตรอื่นๆ ทั้งหมด เพื่อมองหาวิธีจัด Trade Show แบบผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและมีการประสานงานอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน 

Finding the future, together: Towards a B2B trade show industry in the U.S. and Canada คือรายงานการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า โดยคณะทำงานซึ่งนำโดย Little Blue Research ที่ปรึกษาอิสระที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคม 

“อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าแบบ B2B เป็นกลไกสำคัญสำหรับการเชื่อมต่อ การถ่ายทอดความรู้ การค้า การศึกษา และการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้ก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ โครงการวิจัยดังกล่าวจึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าแบบ B2B ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีคาร์บอนต่ำ” Heather Farley ประธานคณะกรรมการความยั่งยืนของ Society of Independent Show Organizer กล่าว

โดยในรายงานระบุว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า B2B ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คือ

  1. การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการเดินทางของเหล่าผู้เข้าร่วม Trade Show โดยเฉพาะทางการบิน รวมถึงก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานและการขนส่ง
  2. ขยะที่เกิดขึ้น ทั้งจากการจัดแสดงสินค้า ขยะที่ถูกทิ้งโดยผู้เข้าร่วมงาน และของเสียจากการจัดงานเลี้ยง
  3. การก่อสร้างบูธและตกแต่งสถานที่ รวมไปถึงวัสดุอย่างพรม เทปกาว โครงฉากต่างๆ ที่ถูกทิ้งหลังจากจบงาน


จากผลกระทบดังกล่าว คณะทำงานจึงได้ระบุวิธีการที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงความยั่งยืนโดยรวมของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าได้ เช่น

  • เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทานการขนส่ง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ประหยัดเชื้อเพลิง เวลา และเงิน และลดมลพิษทางอากาศ
  • สร้างข้อตกลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการออกแบบและวัสดุที่ใช้ในการจัดงานแสดงสินค้า  เลิกใช้วัสดุจัดบูธแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ออกแบบการจัดแสดงสินค้าที่สามารถนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
  • ร่วมมือกับเมืองเจ้าภาพและอุตสาหกรรมพันธมิตรหลัก เช่น สายการบินและโรงแรม เพื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งคาร์บอนต่ำและลดของเสียที่เกิดขึ้น รวมถึงผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการรีไซเคิลขยะและประสิทธิภาพพลังงาน
  • ตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการปรับมาตรฐานอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน พร้อมตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายงาน Finding the future, together: Towards a B2B trade show industry in the U.S. and Canada (อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่) ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าแบบ B2B ทั่วโลก เห็นถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมที่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ที่ไม่เพียงขับเคลื่อนด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน แต่ยังดำเนินการด้วยการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นดันดับแรก

สำหรับผู้ประกอบการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชาวไทยในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมการจัดแสดงสินค้า ตลอดจนผู้จัดนิทรรศการ รวมถึงกิจกรรมประเภทอื่นๆ สามารถศึกษาแนวทางปฏิบัติสําหรับการจัดงานอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ได้ที่ Knowledge Center ของเราที่รวบรวมข้อปฏิบัติสู่ความยั่งยืนในมิติต่างๆ ไว้หลากหลาย

Share the Post:

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ไซต์นี้ลงทะเบียนกับ wpml.org ในฐานะไซต์พัฒนา สลับไปยังไซต์การผลิตโดยใช้รหัส remove this banner.