ปตท.สผ. กำหนดเป้าหมายลดความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายในปี ค.ศ. 2030
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของคนไทย มีพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานและมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน
โดยเมื่อปี ค.ศ. 2012 ปตท.สผ. กำหนดเป้าหมายลดความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่ง ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการบรรลุผลได้เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 8 ปี ในไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ. 2022 สามารถลดก๊าซเรือนกระจกสะสมได้ราว 3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 49 ล้านต้น เพื่อช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ดังนั้นในปีนี้ ปตท.สผ. จึงกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2050 ครอบคลุม Scope 1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง และ Scope 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน ในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่ง ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ การดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างสมดุลและยั่งยืน นับเป็นความท้าทายของธุรกิจพลังงาน ปตท.สผ.จำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน
ซึ่งเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage – CCS) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตและอัดกลับสู่ชั้นหินใต้ดินที่เหมาะสม เพื่อกักเก็บอย่างถาวร โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้เทคโนโลยี CCS ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติอาทิตย์ได้ในปี ค.ศ. 2026 ซึ่งคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 700,000-1,000,000 ตันต่อปี
ปตท.สผ. เชื่อมั่นว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการสำรวจโครงสร้างชั้นหินใต้ดิน รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและองค์กรหลายๆ ฝ่ายในการผลักดันและส่งเสริมการนำเทคโนโลยี CCS มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2065 ด้วย
